ขุนพันธ์ รีวิวและสปอยล์หนังไทยชื่อดัง ที่ได้รับความนิยมสูง

ขุนพันธ์ รีวิว ภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์ บางครั้งการไม่คาดหวัง อาจทำให้เราค้นพบ บางสิ่งบางอย่างก็เป็นได้
ขุนพันธ์ นี่เป็นเพียงข้อคิดเห็นเบื้องต้นของผมนะครับ ขอย้ำว่าเป็นข้อคิดเห็น ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด หนังเรื่องนี้อาจจัดอยู่ใน หนังประวัติศาสตร์ หนังที่สร้างจากเรื่องจริง หนังชีวประวัติ หนังไทยพื้นบ้าน ก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด ข้อคิดเห็นเบื้องต้นของผม คือผู้กับกับต้องการให้หนังเรื่องนี้เล่นใหญ่ แต่การตอบรับจากคนดู ส่วนใหญ่มองว่าหนังไปไม่สุดทาง
ไม่ว่าด้านใดก็ตาม สามารถดูได้แต่ไม่ควรคาดหวังด้วยประการทั้งปวง หากจะให้พูดถึงหนังเรื่องนี้ เป็นไปได้ไหมครับผมถามซักหน่อยว่า มีใครบ้างหล่ะ ที่ไม่อยากดู ในทีเซอร์แรกก็ต้องบอกว่า
สามารถกระตุ้นความอยากดูในตัวผม ให้มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทีเซอร์ของหนังเรื่องนี้ปล่อยมาก่อนที่หนังจะออกฉาย ประมาณหนึ่งเดือนโดยประมาณ ทางด้านการโปรโมทรวมถึงความคาดหวัง ที่มาจากคอหนังทั่วประเทศนั้นมีมากพอสมควร
ตัวผมเองก็เป็นคนนึง ที่ตั้งความหวังไว้กับหนังเรื่องนี้มากคนหนึ่งครับ แล้วก็แอบหวังนะครับ ว่าจะลบล้างหนังไทยที่สุดแสนจะธรรมดา ในช่วงต้นปีถึงกลางปีได้บ้างตามสมควร ในขณะที่หนังฉายจริง “ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวังเลยครับ”
การที่หนังเรื่องนี้ ไปโปรโมทที่งานใด ๆ ก็ตามแต่ สุดท้ายก็เป็นเพียงความหวังลม ๆ แร้ง ๆ ที่เกิดขึ้นกับแฟนหนังก็เท่านั้นเองครับ คงไม่มีอะไรดีไปกว่างานโปรดัคชั่น และสุดยอดนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างน้อย แล้วก็อนันดา ก็ต้องชมจากใจจริงนะครับว่าสองคนนี้ ทำออกมาได้ดีมาก ๆ หากจะใช้คำว่า สามารถคุมหนังเรื่องนี้ได้ทั้งเรื่อง ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดนักจริงไหมครับ ถ้าจะให้พุดถึงจุดใดจุดหนึ่งในหนัง ว่ามีจุดดีไหม
หนังเรื่องนี้มีแรงบันดาลใจมาจากไหน มีเป้าหมายอย่างไรบ้าง เชิญทัศนาครับ
ผมบอกตรง ๆ เลยครับเป็นศูนย์ สำหรับใครที่เคยดูหนังคาวบอย ของทางฝั่งตะวันตก คงจะทราบได้ทันทีเลยครับว่า หนังเรื่องนี้พยายามลอกแบบฝรั่งเค้ามา จะเรียกอีกอย่างนึงว่า The Good The Bad and The Ugly ก็ได้ครับ หนังเรื่องนี้มันห่วยแสนห่วยครับ ไร้ซึ่งทิศทาง ขาดจุดหมายที่แน่ชัด นอกเหนือไปจากนี้แล้ว ยังมีคำคมโง่ ๆ ตรรกะป่วย ป่วย
คำพูดที่ดู เชยแสนเชย ต้องบอกว่าป่วยมากจริง ๆ ครับ ผมคิดนะครับว่าทางผู้กำกับ คงจะแค่ใส่ ๆ มันเข้าไป มีเยอะไว้ก่อน แต่หากมองในมุมของผู้สร้างหนังนั้น อาจจะพอรับได้นะครับ แต่จริง ๆ แล้วผมยอมรับครับว่าผมเองแหละที่รับไม่ได้ซะมากกว่า จะไม่ให้พูดอย่างงั้นได้ไงละครับ
ก็มีตัวอย่างเช่น พี่เขาคิดจะใส่ดีเทลอะไรซักอย่าง ก็สักแต่จะใส่ ใส่ ใส่แล้วก็ใส่ครับ เข้าไป ใช้ไขสันหลังคิดรึเปล่าเนี่ย ทำไม๊ทำไมมันถึงได้ดูโคตรตลก แล้วก็เห่ยแบบนี้ครับ ที่ขาดไม่ด้คงเป็นความเชย ชนิดที่ว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่ขบวนการ 5 สียังดีกว่าเลยครับ พี่คิดว่าพี่เป็น Ben Tennyson หรือไงครับพี่ก้อง มันไม่ได้มีความคมในคำคนแต่ละอย่างเล๊ย ใส่มาเพื่ออะไรครับ บางอย่างไม่จำเป็นก็ตัดมันออกไปบ้างก็ได้ครับ
ขุนพันธ์ จุดเด่นจุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้ มีความเป็นไปได้ใดบ้าง ที่จะทำให้ดูดีขึ้นมาได้ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
อะไรที่แย่ ๆ ยังคงไม่จบเพียงแค่นี้ครับ เส้นเรื่องของหนังเรียกได้ว่าเอื่อยสุด ๆ ครับชนิดที่ว่าอยากจะลูกออกไปซื้อน้ำชามาจิบกันเลยทีเดียวเชียวครับ ภาพรวมของการสร้างอารมรมณ์ให้กับผู้ชม ที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อนั้น จริง ๆ แล้วควรจะสร้างอารมณ์คนดูให้ลุ้นระทึก และควรที่จะพีคอย่างมากถึงมากที่สุด แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นละครเวที
ที่ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยอะไรโง่ ๆ บลา ๆๆๆ ครับ และเต็มไปด้วยคำพูดที่คาดเดาได้ง่ายครับ เมื่อถึงเวลาที่ควรจะพีค แต่หนังกลับไม่ดำเนินให้มันสุดครับ มีแต่วิธีเดิม ๆ ดำเนินตลอดเรื่อง
ก็เรียกได้ว่าเละไม่เป็นท่าแล้วไอ้ฉากต่อสู้บอกผมหน่อย มันคืออัลไลครับ ใครที่ได้ดูคงบอกว่านี่มันหนังระลึกชาติรึเปล่าเนี่ย แทนที่จะเล่นด้านอารมณ์ให้ได้อารมณ์แบบถึงที่สุด
ไม่ทราบว่าทำไมถึงต้องชวนคนดูให้รักชาติด้วย มันไใ่ใช่แล้วครับ หนังมันเริ่มมั่วไปหมดแล้วครับ ยิ่งเนื้อหาของหนังกำลังดำเนินไปที่จุดไคลแม็กซ์มากขึ้นเท่าไหร่ ตัวหนังกลับทวีความเละเทะจนออกทะเล แบบกู่ไม่กลับเท้านั้นครับ Contagion
ไม่ว่าจะฉากแอ็คชั่น ฉากบีบอารมณ์ หรือฉากดราม่า หรือฉากเสียดสีสังคม แล้วไหนจะฉากชวนเชื่อให้คนหันมารักชาติอีก จริง ๆ แล้วควรจะเอาดีด้านใดด้านหนึ่งให้ชัดไปเลยครับ
ตัวหนังเรียกได้ว่า ใส่ทุกเม็ดทุกประเด็นที่ผู้กำกับมองว่าควรใส่เข้าไปในหนัง พอทุกอย่างรวมกัน บอกได้เลยว่าเละมากคร๊าบบบ ผู้กำกับคงมีความพยายาม
ที่จะเล่นใหญ่ด้วยการขยายซีจี บอกตรง ๆ ครับแทบไม่ต่างอะไรกับหนังช่องเจ็ดเลยซักนิด ห่วยขั้นเทพครับ แต่ผมก็พอเข้าใจครับว่าขีดจำกัดของหนังไทยคงทำได้เท่านี้ครับ
ทั้ง ๆ ที่ก็คงทราบว่าขีดจำกัดในการทำซีจีทำได้เพียงเท่านี้ แต่ทำไมไม่กลบจุดด้อบด้านนี้ ด้วยจุดดีของบทละครไปครับจะดีกว่าไหมครับถ้าหันมาขยายบทหนัง
ขยายความคำว่าเล่นใหญ่กันหน่อยครับ ก็ไอ้ฉากเท่ ๆ นั่นแหละครับ ผู้กำกัยพยายามใส่ฉากแบบเท่ไว้ก่อนพ่อสอนไว้ครับ แล้วก็โคตรเวอร์ แต่จริง ๆ แล้วไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องทำขนาดนี้เลยครับนะคุณก้อง ผมมองว่าฮามากกว่าแฮะแทนที่จะเท่
ภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นมีข้อดีข้อด้อยในทิศทางไหนได้บ้าง
พอกันทีครับกับความเละเทะที่ไม่หน้าให้อภัย หากจะให้ผมบ่าทั้งวัน ผมคิดว่าคงไม่หมดหรอกครับ ตัวหนังพยายามเล่นใหญ่จนเกินตัว ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับทำไมถึงขยายงานซีจี มากกว่าบทหนังกันครับ
ช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไป บอกเลยว่าเละเทะโคตร ๆ หนังแทบไม่มีทิศทางที่แน่นอนเลยครับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทางผู้กำกับต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่ ต้องบอกอีกครั้งนึงว่าออกทะเลครับ ไปไกลด้วยเรือ ฟลายอิ้งดัชแมน กันเลยทีเดียวครับ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีจ้อดีเลยนะครับ ในข้อเสียนั้นก็พอจะมีดีอยู่บ้าง เล็กน้อยถึงปานกลางครับ ก็ตรงที่หายากนะครับหนังไทยแบบนี้คุณว่ามั๊ย หากคุณไม่คำนึงถึงข้อเสีย คิดง่าย ๆว่าแค่อยากมาดู มาดูนักแสดงมากฝีมืออย่างอนันดาเอย น้อยเอย
ที่ทั้งสองนั้นประชันฝีมือกันแบบเต็มที่ ก็คงจะเพียงพอแล้วครับ ไม่ต้องคาดหวังอะไรมากครับ ผมมองว่าการคาดหวังยิ่มมีมากเท่าไหร่ โอกาสผิดหวังยิ่มมีมากเท่านั้นครับ ทำหัวโล่ง ๆ แล้วไปดูเลยครับ
ผมแนะนำให้พวกคุณไปชมหนังไทยแบบนี้ครับ ก็ยังจะดีกว่าหนังห่วย ๆ แสนบัดซบแบบหนังไทยหลาย ๆ เรื่องซะอีกนะครับ โดยสรุปแล้วก็ยังแนะนำให้ดูครับ ดูแบบไม่คาดหวังครับ จะได้ไม่ต้องผิดหวังแบบผม
เนื้อเรื่องแบบย่อจะเป็นเช่นไรลองติดตามอ่านกันดูครับ
นายตำรวจน้ำดีคนหนึ่งจากนครศรีธรรมราช เมื่อได้ศึกษาจนจบจาก โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ก็ได้รับมอบหมายให้ไปประจำการที่ภาตใต้ จังหวัดสงขลา ต่อมาก็พัทลุง แล้วก็มีวิชามวยที่เรียนจากครูมวย และหลักสูตรน้านร้อยตำรวจ ซึ่งภารกิจที่ดีงามในจังหวัดพัทลุง ได้สร้างชื่อเสียงให้พระเอกเป็นอย่างมาก ด้วยการปราบเสือสัง(โจรเลื่องชื่อในสมัยนั้น)
โดยเสือสังเนี่ยได้หนีการจับกุม มาจากจังหวัดตรัง อีกทั้งผลประโยชน์ที่ได้จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่มอบให้เสือสัง แน่นอนการจะจับเสือสังนั้นไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่าย ๆ แต่ก็ไม่คณามือขุนพันธ์
โจรแถบนั้นนี่เรียกได้ว่าเรียบเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็ได้รับการเพิ่มยศไปพร้อม ๆ กับเพื่อนตำรวจอีกสองนาย ที่มีส่วนร่วมในการปราบโจรในครั้งนั้น เหตุการณ์ต่อจากนี้ผ่านไปเพียงไม่กีปี
พระเอกก็สามารถจัดการโจรดังในภาคใต้กว่า 16 รายและทำสำเร็จซะด้วย แล้วก็ได้เลื่อนยศกันตามระเบียบ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ลากิจจากราชการไปอุปสมบท ณ วัดมหาธาตุเป็นระยะเวลาหนึ่งพรรษา
ผลงานที่สร้างชื่อเสียงได้อย่างล้นหลาม คือปราบผู้ร้ายที่นราธิวาส ที่เจอกับโจรขมังเวทย์หนังเหนียว ยิง ฟัน แทงไม่เข้า ฆ่าเฉพาะชาวไทยพุทธ เหตุการณ์ช่วงนี้คือปี 2481 ขุนพันธ์สามารถจับคนร้ายรายนี้ได้
และได้รับสมญานามใหม่ว่า รายอกะจิ แปลตรงตัวคืออัศวินพริกขี้หนู เรียกได้ว่าเป็นชีวิตที่ดี๊ดีกับการเป็นตำรวจ แต่ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนคือเรื่องเสี่ยงอันตราย ขึ้นชื่อว่าตำรวจ ทำดีก็ย้าย ทำไม่ดีก็ย้าย แทงบอลออนไลน์
ก็นั่นแหละหลังจากนั้นแกก็ได้ย้ายไปจังหวักพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร ตามลำดับ โดยสาเหตุมาจากโจรแถบนั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แกได้จัดตั้งกองกำลังพิเศษสำหรับปราบโจร เน้นไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดชัยนาท แต่ก็มีบ้างครับที่บางครั้งก็ก็ล้มเหลวบ้างในการปราบโจร ก็สั้น ๆ ประมาณนี้พอครับ ทีเหลือก็ไปติดตามต่อได้จากภาพยนตร์ครับ UFABET